คิดค้นเพื่ออนาคตและวันข้างหน้า
บ๊อชมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นด้วยการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ซึ่งในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมมากว่า 130 ปี เรายังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อเอาชนะความท้าทายแห่งอนาคต นักวิจัยและนักพัฒนาของบ๊อชกว่า 72,000 คนทั่วโลก รวมทั้งวิศวกรซอฟต์แวร์กว่า 30,000 คนได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อสร้างโซลูชั่นที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิต ให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เราก้าวล้ำนำหน้าอยู่เสมอ
ปัญญาประดิษฐ์
ในแต่ละปีบ๊อชได้ทุ่มทุนกว่า 3.7 พันล้านยูโร เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยขยายขีดความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence หรือ AI) ได้อย่างเต็มศักยภาพ ปัจจุบัน เรามีผู้ร่วมพัฒนาด้าน AI กว่า 1,000 คน โดยมีเป้าหมายในการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ให้ได้มากถึง 20,000 คนในอีก 2 ปีข้างหน้าผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมในระดับต่างๆ สำหรับผู้บริหาร วิศวกร และนักพัฒนา
นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่าการสร้างความเชื่อมั่นด้าน AI เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน ซึ่งความเชื่อนี้ได้นำมาสู่การกำหนด หลักจรรยาบรรณด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI code of ethics) เพื่อสร้างแนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้งาน AI สำหรับผลิตภัณฑ์อัจฉริยะต่างๆ ของบ๊อชให้เป็นไปได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามหลักจริยธรรม
นวัตกรรมด้าน AI และ Internet of Things ของบ๊อชคือสิ่งที่ช่วยสร้างสรรค์โซลูชั่นเพื่อทำให้ชีวิตของ
ผู้คนง่ายขึ้นและปลอดภัยขึ้นทั้งในด้านยานยนต์ ที่อยู่อาศัย และการผลิต โดยหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว คือ Virtual Visor ซึ่งเป็นแผ่นบังแดดดิจิทัลแบบโปร่งใสที่ใช้เทคโนโลยี AI และอัลกอริทึมอัจฉริยะที่ช่วยปกป้องทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ขณะอยู่บนท้องถนน
ยานยนต์เพื่อทุกคน
ระบบการจ่ายไฟฟ้าและระบบควบคุมอัตโนมัติคือสิ่งที่จะเชื่อมโยงและปรับยานยนต์แห่งอนาคตให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุดเพื่อสร้างประสบการณ์แบบใหม่ให้แก่ผู้ใช้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Internet of Things (IoT), AI และเซลล์เชื้อเพลิงได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์เพื่อขับเคลื่อนให้เรามุ่งสู่ยุคของยานยนต์ทางเลือกในอนาคตได้
กุญแจสำคัญอันจะนำไปสู่ความสำเร็จนี้ คือ การใช้วิธีที่มีความเป็นกลางทางเทคโนโลยีเพื่อพัฒนายานยนต์ปลอดมลพิษ โดยลงทุนในการผสมผสานระบบส่งกำลังระหว่างเครื่องยนต์สันดาปประสิทธิภาพสูงกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทันสมัย
เทคโนโลยีควอนตัม
การจะก้าวกระโดดสู่โลกอนาคตแห่งวิศวกรรมได้นั้น เราจำเป็นต้องลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด นั่นคือ เทคโนโลยีควอนตัม ซึ่งเป็นวิศวกรรมศาสตร์สาขาใหม่ที่แปลงฟิสิกส์ควอนตัมให้กลายเป็นการใช้งานในทางปฏิบัติได้จริง และนี่คือสิ่งที่จะช่วยปลดปล่อยความเป็นไปได้ทางวิศวกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้เราแข่งขันกับแนวโน้มต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างฉับพลันที่สุดได้ เช่น การแผ่ขยายของสังคมเมืองและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเราได้มุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้านที่สำคัญดังต่อไปนี้ เซ็นเซอร์ควอนตัม คอมพิวเตอร์ควอนตัม และอัลกอริทึมควอนตัม รวมทั้งการเข้ารหัสเชิงควอนตัม
ปัญหาเกี่ยวกับการหาค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานด้านวิศวกรรมต่างๆ เช่น การจัดเส้นทางการจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม สามารถแก้ไขได้โดยอาศัยการคำนวณเชิงควอนตัม ทั้งนี้ เทคโนโลยีควอนตัมที่สร้างความพลิกผันให้แก่โลกนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อวิศวกรรมในอนาคตเนื่องจากเซ็นเซอร์ คอมพิวเตอร์ และความมั่นคงปลอดภัยจะกลายเป็นสิ่งที่มีความซับซ้อนยิ่งกว่าที่เคย
เทคโนโลยีเซ็นเซอร์
จากประสบการณ์ของเราตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาในฐานะผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ได้ช่วยให้เราคิดค้นโซลูชั่นด้านเซ็นเซอร์อันยอดเยี่ยมได้สำเร็จ เช่น Soundsee ซึ่งเป็นระบบโสตอัจฉริยะที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันของนักบินอวกาศง่ายขึ้น ระบบเซ็นเซอร์นี้ช่วยให้นักบินอวกาศได้ยินเสียงการทำงานที่ผิดปกติและลดเวลาการระบุความผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนเกิดเหตุเสียอีก จากประโยชน์การใช้งานจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในอวกาศ นักพัฒนาของเรามีความมั่นใจว่า Soundsee สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยให้ชีวิตในอนาคตของผู้คนบนโลกดีขึ้นผ่านการตรวจจับระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ ระบบปรับอากาศหรือเครื่องยนต์ของยานพาหนะ ในขณะเดียวกัน เรายังได้ดำเนินการทดสอบต่างๆ ในอวกาศเพื่อแก้ไขปรับปรุงระบบเซ็นเซอร์ให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเสียงในสภาพสุญญากาศของอวกาศนั้นไม่ได้ดังเท่ากับเสียงบนพื้นผิวโลก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อวกาศเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบที่สมบูรณ์แบบของเรา
เรียนรู้เกี่ยวกับเรา
สื่อสารองค์กร